สายอีเธอร์เน็ตสำหรับกล้องรักษาความปลอดภัยมีวิธีการเลือกอย่างไร
สายอีเธอร์เน็ตเป็นสิ่งสำคัญในการช่วยป้องกันรักษาความปลอดภัยของระบบกล้องวงจรปิด เราจะมาดูกันว่าเราจะมีวิธีการเลือกแบบไหนที่ดีที่สุด อย่างแรกเลยต้องไปดูที่ระบบกล้องรักษาความปลอดภัยก่อนว่าเป็นกล้องประเภทใด
กล้องแบบ IP
กล้อง Internet Protocol หรือกล้อง IP เป็นกล้องวิดีโอชนิดหนึ่งที่รับข้อมูลและส่งข้อมูลภาพผ่านเครือข่าย IP โดยไม่จำเป็นที่ต้องใช้อุปกรณ์บันทึกในเครื่อง และกล้อง IP สามารถติดตั้งง่าย ๆ ผ่าน Power over Ethernet (PoE) กล้องชนิดนี้สามารถรวมทั้งวิดีโอและเสียงไว้ในสายเส้นเดียว ตอนนี้คุณภาพของภาพนั้นมีตั้งแต่ 4K/5MP/720p /1080p จนไปถถึงระดับ 4K กล้อง IP จะเหมาะกับที่ที่สามารถเดินสาย Cat5 หรือสาย Cat6
กล้องแบบอนาล็อก
กล้องแบบอนาล็อกจะบันทึกภาพแล้วส่งข้อมูลผ่านสายโคแอกเชียล(coaxial) ไปยังเครื่องบันทึกภาพ (DVR) จะแปลงสัญญาณจากระบบอนาล็อกเป็นระบบดิจิทัลและจัดเก็บไว้ในฮาร์ดไดรฟ์
แต่สายอีเทอร์เน็ตก็เหมาะสำหรับกล้องทั้ง 2 แบบ แต่กล้องแต่ละอย่างก็ยังมีความแตกต่างกันคือ ความละเอียด การจัดเก็บ ความยืดหยุ่น และความสามารถในการปรับขนาด
สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับสายอีเทอร์เน็ต (Ethernet Cable)
สายอีเทอร์เน็ตเป็นสายเครือข่ายประเภททั่วไปสามารถใช้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น คอมพิวเตอร์ เราเตอร์ และสวิตช์ สายอีเทอร์เน็ตมีลักษณะคล้ายกับสายโทรศัพท์ทั่วไป แต่จะมีขนาดใหญ่กว่า ประกอบไปด้วย สายทองแดงหุ้มฉนวน 8 เส้นถูกแบ่งออกเป็น 4 คู่ และสายแต่ละสายจะพันรอบกันภายในแต่ละคู่เพื่อลดการรบกวนของสัญญาณ
หน้าที่หลัก ๆ ของสายอีเทอร์เน็ตมี 2 อย่าง ได้แก่
1.จะช่วยในการเชื่อมต่อระหว่างกล้องกับเครือข่ายโดยที่มีความปลอดภัยและสามารถดูแลการจัดการได้สะดวก
2.สามารถใช้สายเพียงเส้นเดียวเพื่อเชื่อมต่อกับ Power over Ethernet (PoE) switch ได้เลย
สายอีเทอร์เน็ตมีชนิดทั่วไปได้แก่ Cat5, Cat5e, Cat6, Cat6a และ Cat7 มีตารางเปรียบเทียบความต่างของสายแต่ละประเภทดังนี้
Category | Max Transmission Speed (at 100 meters) | Max Bandwidth |
---|---|---|
Cat5 | 10/100 Mbps | 100 MHz |
Cat5e | 1000 Mbps / 1 Gbps | 100 MHz |
Cat6 | 1000 Mbps / 1 Gbps | >250 MHz |
Cat6a | 10000 Mbps / 10 Gbps | 500 MHz |
Cat7 | 10000 Mbps / 10 Gbps | 600 MHz |
สายแต่ละประเภทมีวิธีการเลือกอย่างไร
กล้องรักษาความปลอดภัยที่มีความละเอียดต่างกันก็ต้องใช้แบนด์วิดท์ต่างกัน กล้องที่มีความละเอียดสูงก็จะมีการใช้แบนด์วิดท์มากกว่า ระบบกล้อง IP ส่วนใหญ่จะใช้แบนด์วิดท์น้อยกว่า 100Mbps ดังนั้นสายที่แนะนำของกล้อง IP คือ Cat5e และ Cat6 แทน Cat6a หรือ Cat7 ยกตัวอย่างเช่นกล้องที่มีความคมชัด 1080p จะใช้แบนด์วิดท์ 5mbps และกล้องที่มีความคมชัด 4K ก็ใช้แบนด์วิดท์ 30mbps ซึ่งจะเห็นได้ว่าศักยภาพของสายแต่ละประเภทนั้นเพียงพอต่อการใช้งานเป็นอย่างมาก
1080P @ 5/mbps | 4K @ 30/mbps | ||
---|---|---|---|
Cat5e | Remaining Bandwidth | 995/mbps | 970/mbps |
Cat6 | Remaining Bandwidth (less than 165 feet) | 9,995/mbps | 9,970/mbps |
Remaining Bandwidth (165 feet) | 995/mbps | 970/mbps |
สำหรับการใช้งานพื้นฐานทั่วไปสามารถใช้สาย Cat5e และสาย Cat6 ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว
ขอขอบคุณ
ที่มา : https://community.fs.com/blog/how-to-choose-ethernet-cable-for-security-cameras.html
แปลภาษาและแก้ไขโดย : PBA Supply